กำลังมอเตอร์กับอุณหภูมิแวดล้อมและระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่ากำลังที่ระบุไว้บนเนมเพลตของมอเตอร์นั้นคือกำลังขาออก (Output Power) ที่พิกัด ซึ่งจะมีแสดงในตารางแสดงคุณสมบัติใน Catalog, Datasheet ต่างๆของมอเตอร์นั้นๆ ซึ่งมอเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไปจะเป็นกำลังขาออกที่อุณหภูมิแวดล้อม (Ambient Temperature) ที่ 40 องศาเซลเซียส และระดับความสูงที่ 1000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เมื่ออุณหภูมิแวดล้อมหรือความสูงจากระดับน้ำทะเลเปลี่ยนไปจากมาตรฐาน ขนาดพิกัดกำลังขาออกของมอเตอร์ก็จะมีการเปลี่ยนไป ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากผู้ผลิต โดยสำหรับมอเตอร์ CMG จะมีตัวคูณลด/เพิ่ม (multiplication factors) ตามตารางดังนี้
จากตารางดังกล่าวจะได้ความสัมพันธ์ดังนี้
Effective Power = Rated Power x Temperature Factor x Altitude Factor
พิกัดกำลังที่ต้องการ = พิกัดกำลังของมอเตอร์ (ที่ 40 องศาเซลเซียส) x ตัวคุณอุณหภูมิ x ตัวคูณระดับความสูง
ตัวอย่าง 1
ต้องการกำลังจากเครื่องต้นกำลังในการขับโหลด = 15 kW
อุณหภูมิแวดล้อม = 50 องศาเซลเซียส
ระดับความสูงเหนือน้ำทะเล = 2500 เมตร
จะต้องเลือกใช้มอเตอร์ขนาดกี่ kW ?
Rated Power required = Effective Power / (Temperature Factor x Altitude Factor)
Rated Power required = 15 / (0.93 x 0.91) = 17.7 kW
(พิกัดกำลังของมอเตอร์)
ดังนั้นต้องใช้มอเตอร์ขนาด 18.5 kW (อ้างอิงตามมาตรฐาน IEC) สำหรับใช้งานที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ที่ระดับความสูง 2500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ตัวอย่างที่ 2
มอเตอร์ขนาดพิกัด = 11 kW
อุณหภูมิแวดล้อม = 50 องศาเซลเซียส
ระดับความสูงเหนือน้ำทะเล = 1500 เมตร
มอเตอร์จะมีกำลังขาออกเท่าใด ณ การใช้งานจริง
Effective Power = 11 x 0.93 x 0.98 = 10 kW
(กำลังขาออกที่ใช้ได้จริง)
จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิแวดล้อมและระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลจะมีผลต่อพิกัดกำลังขาออกของมอเตอร์ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องพิจารณาเลือกหรือออกแบบพิกัดของมอเตอร์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนั้นๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์